สายโหด AMG ลุยทริปพิเศษหาดใหญ่ – ภูเก็ต ตัวแรงก็ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สบาย

     

     ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า พอได้ปรับตัวให้เข้ากับตัวแรงในตระกูล AMG ในทริปพิเศษที่ทางเมอร์เซเดส – เบนซ์ ประเทศไทย ได้จัดให้ทดลองขับกันจากหาดใหญ่ มายังภูเก็ตครั้งนี้ จะเปลี่ยนความรู้สึกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะปกติแล้วการขับรถที่ Performance สูงแบบนี้ จะไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ แต่สำหรับครั้งนี้กลายเป็นว่านอกจากขับสบายแล้ว ยังขับสนุกได้ตลอดเส้นทางอีกด้วย

         สำหรับทริปพิเศษนี้ ทางทีมงานเมอร์เซเดส – เบนซ์ ได้จัดให้ 5 คัน 4 รุ่น ที่มีความแตกต่างกัน บนเส้นทางกว่า 400 กิโลเมตร ที่มีทั้งทางขึ้นเขา ทางโค้ง สภาพถนนที่แตกต่างกัน รวมทั้งขับฝ่าสายฝนที่ตกกระหน่ำมาอย่างหนักจนแทบจะมองเส้นทางไม่เห็น ซึ่งรถในทริปนี้มีรุ่นไหนบ้าง มาดูกัน

 

        เริ่มจาก Mercedes-Benz E53 จัดให้มา 2 คัน ทั้งแบบซีดานและคูเป้ ซึ่งมีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.5 วินาที เครื่องยนต์เบนซินความจุ 3.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ควบคุมด้วยไฟฟ้า ทำกำลังสูงสุดได้ 435 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร

       Mercdes-Benz GLS 350 d  เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร แถวเรียง 6 สูบ 24 วาล์วพร้อมเทอร์โบ 2-stage ให้กำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 3,400-4,600 รอบ/นาที และแรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,200-3,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 สปีด พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 7 วินาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC

       Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe เป็นรถ Mercedes-AMG แท้ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบนอกเยอรมัน แล้วขายอย่างเป็นทาง การ เครื่องยนต์เบนซิน รหัส M276 แบบ V6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร 2,996 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 88.0 x 82.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด : 10.7 : 1 กำลังสูงสุด 390 แรงม้า ที่ 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 2,500 – 5,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC

        Mercedes-AMG CLA 35 ที่ได้ขับมาตลอดเส้นทางเป็นน้องเล็กสุด แต่ความแรงไม่แพ้รุ่นพี่ เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นรถยนต์คูเป้ 4 ประตู ดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับ AMG มีให้เลือกทั้งหมด 9 สี มิติตัวถัง มีความยาว 4,695 มม. กว้าง 1,834 มม. และสูง 1,404 มม. กระจังหน้า AMG-specific radiator grille รับกับไฟหน้า LED High Performance headlamps ที่ให้รูปลักษณ์การส่องสว่างที่สวยงามและให้ทัศนวิสัยการขับขี่ยามค่ำคืนที่สมบูรณ์ พร้อมใช้พลังงานต่ำ ด้านข้างตัวรถออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ของยานยนต์ที่ดูแล้วเหมือนรถทรงคูเป้ ล้ออัลลอย 19 นิ้ว สปอยเลอร์หลังขนาดเล็ก ไฟท้าย LED กันชนท้ายมาพร้อม Diffuser ท่อไอเสียแบบ AMG exhaust system ให้เสียงคำรามตามโหมดการขับขี่

       เครื่องยนต์ เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์ โบชาร์จ และ อินเตอร์คูลเลอร์ ส่งกำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 3,000-4,000 รอบ/นาที มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม. /ชม. ภายใน 4.9 วินา ที ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 250 กม./ชม. เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Steering-wheel Gearshift Paddles อัตราการบริโภคน้ำมันจะอยู่ที่ 11 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ใช้ตลอดเส้นทางเกิน 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

        ภายในเน้นความสปอร์ตสไตล์รถแข่ง เบาะนั่งทรงสปอร์ต AMG Sport seat พร้อมพวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel โดยปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยจัดวางให้ใช้งานได้ง่าย มาพร้อมกับ AMG steering wheel buttons ตามแบบฉบับสไตล์นักแข่ง Formula 1 ที่สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส หน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่แบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 ที่ให้ความละเอียดคมชัดสูงถึง 2 จอต่อเนื่อง ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX ที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลของหน้าจอได้ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบสัมผัส AMG centre console คอนโซลกลางที่ควบคุมฟังก์ชันการขับขี่ที่หลากหลาย ฟังก์ชัน ECO start/stop ระบบปรับโหมดการขับขี่แบบ AMG DYNAMIC SELECT ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2 โซน เบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบัน ทึกความจำ ที่วางแขนสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง เบาะนั่งแบบ AMG Sports seats เบาะนั่งหุ้มหนัง ARTICO สลับ DINAMICA microfibre สีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลัง พับได้แบบ 1/3 และ 2/3 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ AMG Performance steering wheel ตกแต่งด้วยหนัง nappa และ DINAMICA microfiber หน้าจอแสดงโหมดการขับขี่บนพวงมาลัย 2 จอพร้อมปุ่มควบคุมแบบ AMG steering wheel buttons พวงมาลัยนิรภัยพร้อมเพาเวอร์ ปรับน้ำหนักตามความเร็วรถแบบ AMG speed-sensitive steering วัสดุตกแต่งภายในแบบ Aluminium AMG Design trim ชุดคันเร่ง และแป้นเบรกแบบสปอร์ต ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO มาตรวัดความเร็วและวัดรอบเครื่องยนต์แบบ All-digital instrument display ขนาด 10.25 นิ้ว ระบบปฏิบัติการมัลติมีเดียแบบ MBUX พร้อมระบบสัมผัส และหน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว ระบบแผน ที่นำทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบควบคุม และสั่งงานด้วย Touchpad ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบเชื่อมต่อแบบ Smartphone integration รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร ที่วางแก้วน้ำบริเวณคอน โซลกลาง กล่องเก็บสัมภาระติดตั้งใต้เบาะนั่งคู่หน้า

         โดยภาพรวมถือว่าเมอร์เซเดส – เบนซ์ ในตระกูล AMG แม้จะเน้นไปที่พละกำลัง ความแรง เสริมด้วยการตกแต่งที่ให้อารมณ์ของรถแข่งอยู่มากพอสมควร แต่ในการขับขี่นอกจากจะขับเค้นความแรงได้อย่างทันใจแล้ว ยังให้ความสบายในห้องโดยสารแบบที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ทำให้การขับใช้งานจริงในช่วงเวลาร่วม 6 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องบนเส้นทางนี้ สนุกแบบไม่รู้ลืมกันเลยทีเดียว

ที่ลืมไม่ได้ ขอขอบพระคุณ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จํากัด ด้วยครับ